นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับลูกค้า  

นโยบายฉบับนี้ใช้เพื่อแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล 

“MARCO” 

หมายถึง 

บริษัท มาโค เทคโนโลยี จำกัด 

“พนักงาน” 

หมายถึง 

พนักงานของ MARCO 

“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” 

 

หมายถึง 

บุคคลธรรมดาที่สามารถระบุตัวตนได้จากข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ใช่เป็นเจ้าของในลักษณะทรัพยสิทธิ หรือเป็นผู้ที่สร้างข้อมูลนั้นขึ้นมา)  

 

“ข้อมูลส่วนบุคคล” 

หมายถึง 

ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม  

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” 

หมายถึง 

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ และอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด 

 

“ข้อมูลชีวภาพ” 

หมายถึง 

ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิคหรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพหรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ 

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” 

หมายถึง 

ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล 

“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” 

หมายถึง 

ผู้ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล 

“การประมวลผลข้อมูล” 

หมายถึง 

การดำเนินการใดๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบ จัดโครงสร้างเก็บรักษา เปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวางหรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลายย 

3.1 ข้อมูลส่วนบุคคล คือ ข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม โดย MARCO อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลผ่านช่องทาง ได้แก่ 

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้แก่ MARCO โดยตรง หรือให้ผ่าน MARCO หรือมีอยู่กับ MARCO ทั้งที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านช่องทางดิจิทัล สาขา เว็บไซต์ Call Center ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือช่องทางอื่นใด
  2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ MARCO ได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลโดยตรง เช่น หน่วยงานของรัฐ บริษัทอื่นในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกัน สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการทางการเงิน พันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทข้อมูลเครดิต และผู้ให้บริการข้อมูล เป็นต้น ซึ่ง MARCO จะเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่นต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่ MARCO มีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต หรือมีฐานที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับ 

ตัวอย่างข้อมูลส่วนบุคคลที่ MARCO เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย เช่น 

    • ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด สถานภาพสมรส เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง 
    • ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน์ 
    • ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น IP address MAC address Cookies ID 

3.2 ข้อมูลอื่นๆ เช่น การใช้งานเว็บไซต์ เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) คือ ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ โดย MARCO ไม่มีเจตนาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจากท่าน หากแต่ในบางกรณี MARCO อาจจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจากท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตน หรือประกอบการให้บริการหรือผลิตภัณฑ์แก่ท่าน เช่น ศาสนาตามสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือเชื้อชาติตามสำเนาหนังสือเดินทางของบางประเทศ ข้อมูลชีวภาพ (Biometric) (เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่มีการใช้เทคโนโลยีที่นำลักษณะเด่นทางพฤติกรรมของการลงลายมือชื่อดังกล่าวมาใช้สำหรับการพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคลที่เป็นผู้ลงลายมือชื่อนั้น) ข้อมูลประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการ พฤติกรรมทางเพศ เป็นต้น ทั้งนี้  MARCO จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนต่อเมื่อ MARCO ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่ MARCO มีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต โดยจะดำเนินการเป็นคราว ๆ ไปเมื่อต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจากท่าน  

(ต่อไปในนโยบายฉบับนี้หากไม่กล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียกข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลข้างต้น รวมกันว่า ข้อมูลส่วนบุคคล) 

MARCO จะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ตลอดจนเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายใดๆ ที่ MARCO หรือเจ้าของข้อมูลต้องปฏิบัติตาม และเพื่อดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นๆ โดยมีวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ ดังนี้ 

4.1 เพื่อการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของ MARCO 

เพื่อให้เจ้าของข้อมูลสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของ MARCO ได้ตามความประสงค์ซึ่งเจ้าของข้อมูลเป็นคู่สัญญาอยู่กับ MARCO หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลก่อนใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของ MARCO (Contractual Basis) เช่น 

1. การดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้ผลิตภัณฑ์และ/หรือการให้บริการด้านดิจิทัลต่างๆ เช่น การออกแบบและสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การทดสอบและปฏิบัติการระบบ การสร้างและทดลองระบบต้นแบบ เป็นต้น 

4.2 เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับ 

เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับ (Legal Obligation) เช่น  

1. การปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย 

2. การปฏิบัติตามกฎหมายธุรกิจสถาบันการเงิน กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ กฎหมายภาษีอากร กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายล้มละลาย และกฎหมายอื่นๆ ที่ MARCO จำเป็นต้องปฏิบัติตามทั้งของในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงประกาศและระเบียบที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว 

4.3 เพื่อการดำเนินงานอื่นๆ ของ MARCO 

1. การบันทึกเสียงทาง Call Center การบันทึกภาพ CCTV การแลกบัตรก่อนเข้าอาคาร 

2. การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การจัดการข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การดูแลลูกค้า การแจ้งเตือนหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่างๆ ที่เจ้าของข้อมูลมีอยู่กับ MARCO ซึ่งเป็นประโยชน์กับเจ้าของข้อมูล 

3. การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ การบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการส่งต่อไปยังบริษัทในเครือกิจการเดียวกันเพื่อการดังกล่าว  

4. การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (Anonymous Data) 

5. การป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดการกระทำการทุจริต ภัยคุกคามทางไซเบอร์ การผิดนัดชำระหนี้หรือผิดสัญญา (เช่น ข้อมูลล้มละลาย) การทำผิดกฎหมายต่างๆ (เช่น การฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือชื่อเสียง) ซึ่งรวมถึงการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงานของบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกันในการป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงข้างต้น 

6. การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทน ของลูกค้านิติบุคคล เพื่อการตรวจสอบยืนยันตัวตน การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจ และ/หรือใช้เป็นหลักฐานในการประกอบการทำธุรกรรมและการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง 

7. การติดต่อ การบันทึกภาพ การบันทึกเสียงเกี่ยวกับการจัดประชุม อบรม สันทนาการ หรือออกบูธ 

8. การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายภาษีอากร กฎหมายป้องกัน กฎหมายปราบปรามการฟอกเงินกฎหมายล้มละลาย เป็นต้น 

9. การรับ-ส่งพัสดุ 

4.4 เพื่อการรับประโยชน์จากการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ  

1. เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้รับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่ดียิ่งขึ้น และสอดคล้องกับความต้องการของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล 

2. เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้รับข้อเสนอ สิทธิประโยชน์พิเศษ คำแนะนำ และข่าวสารต่างๆ รวมถึงสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ 

3. ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์และ/หรือ บริการ สิทธิประโยชน์ โปรโมชั่น ข่าวสาร หรือกิจกรรมพิเศษของ MARCO เอง หรือของบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกัน หรือของบุคคลที่ MARCO เป็นตัวแทน นายหน้า ผู้จำหน่าย หรือของพันธมิตรทางธุรกิจ หรือของบุคคลภายนอกที่มีความเกี่ยวข้องกับ MARCO ตามแต่กรณีที่เจ้าของข้อมูลให้ความยินยอมไว้  

ทั้งนี้ หาก MARCO จำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการเข้าทำหรือการปฏิบัติตามสัญญาที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ทำไว้กับ MARCO และ/หรือการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของ MARCO และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นเหล่านั้นแก่ MARCO เมื่อมีการร้องขอ หรือกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเลือกที่จะลบบัญชีผู้ใช้งานออกจากแอปพลิเคชันที่ให้บริการของ MARCO ซึ่ง MARCO อาจจะไม่สามารถพิจารณาอนุมัติหรือส่งมอบ/จัดหา ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการบางส่วนหรือทั้งหมดให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ตลอดจนอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของ MARCO หรือความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและ MARCO ได้ 

MARCO อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ 

MARCO อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น เพื่อการให้บริการแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการวิเคราะห์และพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ เพื่อการทำวิจัยหรือจัดทำข้อมูลทางสถิติ เพื่อการส่งเสริมการขายและการประชาสัมพันธ์ของ MARCO เพื่อการบริหารกิจการ เพื่อการป้องกันการทุจริต เพื่อให้ผู้อื่นให้บริการสนับสนุนแก่ MARCO เพื่อการพิสูจน์ตัวตนลูกค้า โดย MARCO อาจเปิดเผยให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ เช่น บริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกัน ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล พันธมิตรทางธุรกิจที่ออกผลิตภัณฑ์ร่วมกัน (Co-brand) ผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทนของ MARCO ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ สถาบันการเงิน ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอก บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ บริษัทบริหารสินทรัพย์ บริษัทข้อมูลเครดิต ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ผู้สนใจจะเข้ารับโอนสิทธิและ/หรือผู้รับโอนสิทธิในธุรกรรมหรือการควบรวมกิจการต่าง ๆ ของ MARCO นิติบุคคลหรือบุคคลใดๆ ที่มีความสัมพันธ์หรือมีสัญญาอยู่กับ MARCO ซึ่งรวมตลอดถึง ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของ MARCO และของบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าว 

กรณีเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดของผู้รับข้อมูล เช่น เพื่อการส่งเสริมการขาย การประชาสัมพันธ์ หรือการเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการจากผู้รับข้อมูลให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล MARCO จะแจ้งรายชื่อผู้รับข้อมูลให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบเพื่อประกอบการตัดสินใจให้ความยินยอม 

MARCO อาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ไปยังบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของ MARCO เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน Server/Cloud ในประเทศต่างๆ 

กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงพอ MARCO จะดูแลการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้อง เช่น มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว และ/หรือข้อตกลงกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าวเพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองภายใต้มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่ากับประเทศไทย หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกัน MARCO อาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Binding Corporate Rules) ที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและจะดำเนินการให้การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทนการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ได้  

ทั้งนี้ การส่งหรือโอนข้อมูลส่งนบุคคลไปยังต่างประเทศ จะถูกดำเนินการตาม นโยบายการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ อย่างเคร่งครัด 

MARCO จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นลูกค้าหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับ MARCO หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสิ้นสุดความสัมพันธ์กับ MARCO ตามระยะเวลาที่จำเป็นตามอายุความ หรือระยะที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น

    • จัดเก็บไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 5 – 10 ปี นับแต่ยุติความสัมพันธ์ ตามแต่กรณี
    • จัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี

                ทั้งนี้ MARCO จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

                การจัดเก็บ ลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล จะถูกดำเนินการตาม นโยบายการจัดเก็บและทำลายข้อมูลส่วนบุคคล อย่างเคร่งครัด

MARCO จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) มาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard)  เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดย MARCO ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และกระบวนการปฏิบัติงานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลถูกนำไปใช้นอกวัตถุประสงค์ และ MARCO มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และกระบวนการปฏิบัติงานดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจาก MARCO มีหน้าที่ต้องรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่ MARCO กำหนดขึ้น

สิทธิของเจ้าของข้อมูลในข้อนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายที่เจ้าของข้อมูลควรทราบ โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่ MARCO กำหนดขึ้น และในกรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือถูกจำกัดความสามารถในการทำนิติกรรมตามกฎหมาย เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอใช้สิทธิโดยให้บิดาและมารดา ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือมีผู้อำนาจกระทำการแทนเป็นผู้แจ้งความประสงค์

    1. สิทธิขอถอนความยินยอม : หากเจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมให้ MARCO เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่เจ้าของข้อมูลให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับ MARCO เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลอยู่

ทั้งนี้การถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลอาจส่งผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการต่างๆ เช่น อาจจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ หรือข้อเสนอใหม่ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการ หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูล เป็นต้น เจ้าของข้อมูลจึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม

    1. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองที่อยู่ในความรับผิดชอบของ MARCO และขอให้ MARCO ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงขอให้ MARCO เปิดเผยว่า MARCO ได้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลมาได้อย่างไร
    2. สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง ในกรณีที่ MARCO ได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้ MARCO ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ MARCO ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมแก่ MARCO ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ MARCO จำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อให้เจ้าของข้อมูลสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของ MARCO ได้ตามความประสงค์ซึ่งเจ้าของข้อมูลเป็นคู่สัญญาอยู่กับ MARCO หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลก่อนใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของ MARCO หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด

    1. สิทธิขอคัดค้าน : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ MARCO หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์

หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยื่นคัดค้าน MARCO จะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลต่อไป เฉพาะที่ MARCO สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่า มีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูล หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี

นอกจากนี้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยังมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติได้อีกด้วย

    1. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่า MARCO หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
    2. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่ MARCO อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือกรณีอื่นใดที่ MARCO หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลขอให้ MARCO ระงับการใช้ข้อมูลแทนการลบหรือทำลาย
    3. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
    4. สิทธิร้องเรียน : เจ้าของข้อมูลมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากเจ้าของข้อมูลเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

การใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลดังกล่าวข้างต้น อาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องและมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่ MARCO อาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของเจ้าของข้อมูลได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น

หาก MARCO ปฏิเสธคำขอข้างต้น MARCO จะดำเนินการแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้เจ้าของข้อมูลทราบทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลสามารถดำเนินการขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ผ่านช่องทางติดต่อที่ระบุในเอกสารนี้

MARCO อาจพิจารณาทบทวนเพื่อแก้ไขเพิ่มเติม ปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลง นโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราวตามความเหมาะสมและเท่าที่กฎหมายอนุญาต ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม ปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลง นโยบายฉบับนี้ MARCO จะดำเนินการประกาศนโยบายฉบับปัจจุบันให้ท่านทาง https://www.marcotechnology.com/privacy-policy

หากเจ้าของข้อมูลมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฉบับนี้ เจ้าของข้อมูลสามารถติดต่อ MARCO และ/หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านช่องทางดังนี้

    • MARCO Website: https://www.marcotechnology.com
    • เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อีเมล dpo@marcotechnology.com

สถานที่ติดต่อ : 252/38, 252/39 ชั้นที่ 30 อาคารเมืองไทย-ภัทร คอมเพล็กซ์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310